Banner

-----[FreeSplanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----

วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

ตี่จู้ ตี่จู่เอี๊ย ( ศาลเจ้าที่จีน ) ตามหลักฮวงจุ้ย

ตี่จู้ ตี่จู่เอี๊ย ศาลเจ้าจีน

ตี่จู้ ตี่จู่เอี๊ย ( ศาลเจ้าที่จีน ) ตามหลักฮวงจุ้ย

ตี่จู้ เจ้าที่จีน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ิ์ที่คนจีนในไทยนิยมตั้ง เพื่อให้เกียรติและแสดงความเคารพต่อ เจ้าที่
การตั้ง ตี่จูเอี้ย ศาลเจ้าที่จีน จะต้องพิจารณา 4 องค์ประกอบดังนี้

ชัยภูมิ - ตี่ลี่

  • ตี่แปลว่าดิน จู้แปลว่าเจ้า ดังนั้น ตี่จู้ ต้องติดดินจึงจะมีพลัง
    หากยกฐาน ฐานนั้นต้องเป็นดินหรือหินและทึบตัน
    ตี่จู่เอี๊ยะ ตั้งได้เฉพาะชั้นล่าง คอนโดที่สูงกว่าชั้นหนึ่งไม่ต้องตั้ง ชั้นดาดฟ้าไม่มีความหมาย

  • ศาลพระภูมิ คือ เจ้าที่ ( ภูมิ - ดิน ) มีความหมายและการปฏิบัติเช่นเดียวกัน
    พระภูมิ ต้องอยู่ติดดิน
    ศาลพระพรหม ( มาจากสวรรค์ ) สามารถตั้งบนดาดฟ้าได้

  • ด้านหลัง ตี่จู้เอี้ย ควรเป็นที่นิ่ง
    ไม่ควรเป็นบันได ห้องน้ำ ประตู ห้องครัวโดยเฉพาะตรงกับ เตาไฟ

  • ด้านหน้า ตี่จูเอี๊ย ควรเป็นที่โล่ง ( เหม่งตึ๊ง ) ไว้รองรับ ( โชคลาภบารมี )

  • หากตั้งอยู่ลึกเกินกว่า 8 เมตรเมื่อนับจากประตู
    ควรยกสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ ตี่จู้ สามารถมองมาเห็นด้านหน้าได้สะดวกขึ้น

  • การยกฐานขึ้น ต้องเผื่อพื้นที่ด้านหน้าสำหรับเป็น เหม่งตึ๊งด้วย
    ( ลานที่ว่างด้านหน้า เพื่อรับโชคลาภ ขนาดประมาณวางจานของไหว้ได้ )

  • หากพื้นของ ศาลเจ้าที่ ต่ำกว่าถนน ให้ยกฐานขึ้นจนสูงเท่ากับถนน และเผื่อพื้นที่ด้านหน้า

  • หากวาง ตี่จูเอี้ย ลงในตู้โชว์ จะต้องมีพื้นที่ด้านข้างขอบซ้ายขวาและด้านบน ตี่จู้
    หากขนาด ตี่จูเอี้ย ใหญ่ก็เว้นที่มากหน่อย

  • ด้านใต้ ตี่จู้เอี๊ย ไม่จำเป็นต้องใส่สิ่งใด
    เพราะหากใส่เหรียญ อันมีพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่สุดในแผ่นดินสยาม ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดกล้ามาอาศัยอยู่

    หรือการใส่เมล็ดพันธุ์พืช หากมีการเจริญเติบโตก็จะกลายเป็นทิ่มแทง

    ดังนั้นดีที่สุด คือฐานที่เรียบ ทำจากดินหรือหิน ( หินอ่อน/แกรนิต ) ทึบตันคือมั่นคง แต่ในบางกรณีที่นิยมใส่ แผ่นเงินแผ่นทอง เพชรนิลจินดา ซึ่งเป็นธาตุดิน ถือว่าใช้ได้

  • ขนาดที่ใช้ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของพื้นที่
    ใหญ่เกินไปก็อึดอัด - เล็กเกินไปก็ไม่เหมาะสม ขาดบารมี


การตั้งตี่จู้เอี้ย

  • กรณีที่ ตี่จู่เอี๊ยะ พิงบันได ( เคลื่อนไหว )
    สามารถแก้ไขได้โดยซื้อแผ่นหินแปะติดบันได ( ประมาณ 1 - 3 แผ่น ) ลดหลั่นลงมา โดยแผ่นเล็กสุดอยู่หน้าสุดควรมีขนาดใหญ่กว่า ตี่จูเอี๊ย อย่างน้อยข้างละ 1 นิ้ว
    ( ด้านบน ซ้ายและขวา ) เปรียบเสมือนภูเขาคือมั่นคง
    แล้วจึงเชิญ ตี่จู้ วางไว้ด้านหน้าแผ่นหินนั้น

  • ตี่จู่เอี้ย สามารถวางไว้ด้านข้างซ้ายหรือขวาของบ้านก็ได้ โดยวิเคราะห์ร่วมกับ ดาว 9 ยุค

  • ตี่จู่เอี๊ย ไม่จำเป็นต้องเป็นสีแดงเสมอไป (ที่ใช้สีแดงเพราะตามความนิยมสืบต่อกันมา )

  • ศาลเจ้าที่หินอ่อน
    ตี่จู้ สามารถทำมาจากวัสดุอื่นได้ เช่น หินอ่อน ซึ่งสอดคล้องกับธาตุดิน ( คือ ตี่จู้ )
    บ้านสมัยใหม่ี่นิยมตั้ง ตี่จู้ เป็นหินอ่่อน

  • บ้านเรือนทั่วไปตั้ง ตี่จู้เอี้ย อย่างเดียวก็เพียงพอ (เหมือนเป็นผู้ใหญ่บ้าน )
    ปึงเถ่ากง เหมาะกับการตั้งบ้านเรือนขนาดใหญ่มากหรือโรงงาน ( ผู้ว่า )
    ตั้งมากเกินไปบ้านจะดูเป็น โรงเจ ศาลเจ้า

ทิศทาง - ดาว 9 ยุค

  • ตี่จู่เอี๊ย ควรตั้งในตำแหน่งลาภวิบัติ ลาภเสื่อม ( ทำให้สิ่งเลวร้ายนิ่งหรือหมดไป )
    หรือตั้งตำแหน่ง บารมีประจำยุค บารมีหนุน บารมีรอ ( เสริมบารมี )

  • ห้ามตั้ง ตี่จูเอี้ย ในตำแหน่ง ลาภประจำยุค ลาภหนุน บารมีวิบัติ บารมีเสื่อม

  • หากเป็นทิศทางเจริญรุ่งเรือง ด้านหน้า ตี่จู้ ต้องมองออกไปตรงตำแหน่งประตูที่มีลาภ

    ตี่จู้ ดาว 9 ยุค
  • ตี่จู้ไม่จำเป็นต้องตรงประตูบ้านเสมอไป

    ตัวอย่าง บ้านนั่ง 345 องศา ยุค 8
    หากตั้งตี่จู้อยู่กลางบ้าน และประตูอยู่กลางบ้าน
    ประตูเป็นดาว 9 7 เป็นตำแหน่งบารมีหนุน และลาภเสื่อม
    เปิดประตูนี้ กลับไม่ดี - ขาดผู้สนับสนุน และเกิดเรื่องเสียลาภ

    ดังนั้น หากเปิดประตูขวามือด้านหน้าของตี่จู้แทน
    จะเป็นดาว 7 9 คือ ประตูลาภหนุน - จะได้ลาภที่ดี

    ศึกษา บทบาทดาว 9 ยุคได้จาก หนังสือ จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ยุค 8


  • หากเป็นทิศทางล้มเหลว ( คือบารมีอยู่หน้า ลาภอยู่หลัง )
    ด้านหลัง ตี่จู่เอี๊ย ต้องเคลื่อนไหว ด้านหน้าต้องถูกปิดบัง

  • ตี่จู้เอี๊ย เป็นเพียงจุดยึดเหนี่ยวไม่ใช่ประธาน


ดวงชะตา - ดวงจีน

  • หากทิศทางที่ตั้งของ ตี่จู่เอี๊ย ถูกต้องกับ ธาตุสำคัญ
    ให้ไหว้เป็นประจำจะช่วยส่งเสริม ดวงชะตา ( ดวงจีน )

ฤดูกาล - ฤกษ์ยาม

  • ควรเป็นฤกษ์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น วันจิ้งซิ้ง ( เด่นดัง ) ได้ยิ่งดี

  • เป็นฤกษ์สี่ทิศก็ใช้ได้ เพราะเป็นฤกษ์ปลอดภัย วุ่นวาย ( เอี๊ยง )
    ตี่จู้ คือนิ่ง ( อิม ) เมื่ออิมและเอี๊ยงมาบรรจบกัน ก็ก่อเกิดพลังสมดุล

  • วันแรกที่มีการทำพิธี ต้องจุดธูปจริง 5 ดอก
    เพราะควันเป็นสื่อแสดงออกถึงความเคารพของเจ้าบ้านต่อ เจ้าที่

  • ของไหว้ ที่ควรเป็นคือ ผลไม้ 5 อย่าง ไม่ควรเป็นเนื้อสัตว์เพราะเท่ากับเบียดเบียนชีวิตอื่น
    ขี้เถ้าที่ใช้ปักธูป ใช้ถ่านหรือดินที่เผาจนเป็นขี้เถ้า ( จะบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งใด ๆ เจือปน )

  • การขยับย้าย การทำความสะอาดครั้งแรก ตี่จู่เอี๊ยะ ต้องดูฤกษ์เสมอ

    ดีที่สุด ให้ใช้มือกด กระถางธูป แล้วเช็ดไปรอบ ๆ
    ห้ามยกหรือเคลื่อนย้ายเรือนหรือกระถางธูปโดยเด็ดขาด


    โดย อ.เกรียงไกร บุญธกานนท์

การตั้ง ศาลพระภูมิ / ศาลพระพรหม ตามหลักฮวงจุ้ย

ศาลพระพรหม

ศาลพระพรหม

    1. ศาลพระภูมิ

      คือ เจ้าที่ ต้องอยู่นอกบ้านเฉพาะชั้น 1 เท่านั้น
      ตั้งบนดาดฟ้า พระภูมิ ( ดิน ) ไม่มีพลัง กลายเป็นที่อาศัยของวิญญาณอย่างอื่น
      ศาลตายาย เป็นบริวารศาลพระภูมิ
      หากตั้ง ตี่จู้ - พระภูมิ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องตั้ง ศาลพระพระภูมิ ศาลตายาย

    2. ศาลพระพรหม มาจากฟ้า ตั้งชั้นใดก็ได้
      แต่การตั้งค่อนข้างยุ่งยากมากกว่า เพราะท่านมี 4 หน้า
      และปกติหน้าทั้ง 4 ไม่ควรถูกบัง จึงเหมาะกับ 4 แยก หรือโรงงานขนาดใหญ่
      ไม่เหมาะกับบ้านเรือนที่อยู่อาศัย

    3. ตำแหน่งวาง ศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ศาลตายาย เหมาะกับ
      ดาวบารมีที่ดี เช่นบารมีประจำยุค บารมีหนุน เพื่อเสริมบารมี

      ดาวลาภที่ไม่ดี เช่นลาภเสื่อม ลาภวิบัติ เพื่อหยุดการรั่วไหล สูญเสีย

    4. ทิศทาง ต้องเป็นองศาที่ดี อย่างน้อยที่สุดต้องไม่เกิดโทษ
      เช่น ตั้งทิศทางล้มเหลว ตั้งทิศทางที่ด้านหน้าเป็นลาภวิบัติ

      ระบบฮวงจุ้ยไม่ได้จำกัดว่า ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ จะต้องหันทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเท่านั้น
      แต่จะขึ้นกับองศาเป็นหลัก

      หากหันตรงทาง 3 แพร่งหรือ 3 แยก และตำแหน่งนั้นเป็นดาวลาภ จะได้ลาภมาก


    5. ชัยภูมิ
      ห้ามตั้งขวางประตูใหญ่
      ห้ามอยู่ใต้ส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคาร
      ห้ามหันสวนกับทิศทางบ้าน บริวารจะพูดอย่างทำอย่าง

    6. ฤกษ์ยาม
      การดูฤกษ์ ต้องดูทิศประธานบ้าน หลังบ้านด้วย + ดูทิศด้านหลังศาล + ปีเกิดเจ้าบ้าน
      ห้ามขุดเจาะในตำแหน่งดาวจร 5 ( ปีจร เดือนจร )
      ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ปฏิทินฤกษ์มงคล )

      ของไหว้ แนะนำเป็นผลไม้ 5 อย่าง
      หลีกเลี่ยงเนื้อหมู เพราะบางสถานที่ เจ้าที่เป็นคนนับถืออิสลาม

      การย้ายศาล ต้องดูฤกษ์ทิศเดิมที่ย้ายออกด้วย

      โดยทั่วไปนิยมตั้ง ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ ช่วงเช้าอย่างมากก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

    7. หมายเหตุ
      ควรตั้ง ศาลพระหรหม ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ต่อเมื่อจำเป็น
      และไม่ควรตั้งหลายจุด
      เมื่อตั้งแล้วต้องดูแล อย่างน้อยที่สุด วันพระ ควรจัดของไหว้
      ย้ายออกแล้วตั้งใหม่ด้วยตนเองได้ แต่มักนิยมให้พราหมณ์หรือผู้รู้ทำ และต้องดูฤกษ์


      โดย อ.เกรียงไกร บุญธกานนท์

พิธี เปิดร้านค้าใหม่ / เปิดสำนักงานใหม่

เปิดร้านค้า สำนักงาน ออฟฟิศใหม่

    ก่อนการ เปิดร้านค้าใหม่

    1. บริเวณที่ ร้านค้า่ อาคาร สำนักงานใหม่ จะไปตั้งอยู่
      หากมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ใกล้ ๆ
      ควรไปไหว้แสดงความเคารพ และขอพรให้ท่านคุ้มครองดูแล ให้มีความสุขความเจริญ

      และให้ทำบุญสังฆทาน และอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของครอบครัว เจ้าที่
      และวิญญาณที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้น

    2. ในกรณีที่สถานที่แห่งนั้น ยังไม่เคยมีผู้เข้าไปอยู่อาศัย
      ก่อนย้ายเข้า เราสามารถปรับสภาพกระแสภายในร้าน ให้ปราศจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย
      โดยการทำ พิธีล้างปรับสภาพ

    3. การทำพิธี เปิดร้านใหม่ ต้องใช้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
      จึงจะเกิดความเจริญก้าวหน้า
      ท่านสามารถใช้บริการ หาฤกษ์ ผ่านหน้า บริการหาฤกษ์


    ก่อนได้ฤกษ์ เปิดร้านค้าใหม่

    1. ให้ดับไฟในร้าน

    2. ให้ทุกคนออกนอกร้าน รวมตัวกันที่หน้าร้าน สำนักงาน


    เมื่อได้ ฤกษ์เปิดออฟฟิศ ร้านค้า

    1. ให้เดินเข้าอาคารใหม่ จัดตั้งองค์พระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อื่น ๆ
      เพื่อใ้ห้ท่านช่วยคุ้มครอง ปกปักรักษา ให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ค้าขายดี

      ในทางปฏิบัติ เราควรกำหนดจุดตั้ง และเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า
      เพื่อสะดวกในวันทำพิธี เปิดร้านใหม่
      และจะได้ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เสร็จทันในฤกษ์ ขึ้นบ้านใหม่

      *** ไม่แนะนำเป็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีลักษณะน่าเกรงขามมาก
      เช่น องค์กวนอูขี่ม้าศึกถือง้าว ฯลฯ ยกเว้น เป็นทางสามแพร่ง


    2. หากต้องการนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาก่อน ให้ใส่กล่องทึบและวางไว้โต๊ะกลางร้าน
      เพื่อจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับทิศทาง และหากอัญเชิญมาจากที่ร้านเก่าต้องดูฤกษ์อัญเชิญลง

    3. จัดของไหว้ถวาย ( ตามแต่ประเพณี / ความนิยมของบุคคล )
      ดีที่สุด ควรเป็นผลไม้ 5 อย่าง ( ครบ 5 ธาตุ - ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ )
      ไม่ควรเป็นเนื้อสัตว์ เพราะเท่ากับเบียดเบียนชีวิตอื่น

    4. วันแรกให้จุดธูปจริง เทียนจริง เพื่อให้เกิดควัน
      ( ควันเป็นสื่อถึงแสดงออก ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเชิญได้รับรู้ )
      และขอพร ( อย่าขอหลายอย่าง ให้ขอเท่าที่สำคัญและจำเป็น )

      Tip เคล็ดลับ :
      ฝ่ายชาย ให้ขอ การค้าเจริญรุ่งเรือง
      ฝ่ายหญิง ให้ขอ ลูกน้องบริวารดี

    5. เปิดใช้ microwave คือการเริ่มต้นอยู่กิน และหมายถึงมีกินมีใช้
      ( ในสมัยโบราณจะใช้วิธีการถือ เตาถ่าน เปิดสำนักงาน แต่ปัจจุบันสามารถใช้วิธีนี้แทน )
      แนะนำ ต้มขนมอี๋ เพื่อเป็นสิริมงคล

    6. นั่งโต๊ะทำงาน ทำงานพอเป็นพิธี หมายถึง ค้าขายดี
      คนจีนบางกลุ่ม จะปิดการขายให้ได้อย่างน้อยหนึ่งราย ถือเป็นเคล็ดนำโชค

    7. บุคคลที่ถูกปะทะในฤกษ์ที่กำหนด ให้เดินตามหลัง
      ( อย่าเป็นผู้เดินนำหน้า หรือเป็นผู้ประกอบพิธี )

    8. หากที่ร้านทิ้งช่วงทำบุญมามากกว่า 1 ปี ควรดูฤกษใหม่์ แต่หากทำต่อเนื่องทุกปีไม่ต้องดูฤกษ์
      Tip เคล็ดลับ : แนะนำจัดถวายกฐินหรือผ้าป่าปีละครั้ง เท่ากับได้ทำบุญกันทุกคนทั้งออฟฟิศ

    9. ฤกษ์เปิดร้านค้า่ ออฟฟิศใหม่ สามารถแบ่งออกเป็น

      ขั้นตอนแรก ฤกษ์ภายใน ( ฤกษ์ตาม ระบบฮวงจุ้ย )

      คือวันตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ( จัดทำกันเอง ไม่ต้องเชิญแขก )
      ( เพราะฤกษ์ที่ได้ อาจไม่สะดวกกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น เป็นวันหยุด )

      ขั้นตอนที่สอง ฤกษ์ภายนอก ( ฤกษ์สะดวก )
      คือวันเปิดร้านค้าขาย ให้เป็นวันที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

      ฤกษ์ภายในและภายนอก อาจเป็นวันเดียวกัน หรือฤกษ์เดียวกันได้

      ในกรณีที่จะแจกของที่ระลึก และบางท่านอาจถือเคล็ดว่าวันแรกไม่ควรแจกของฟรี
      ให้แจกคูปองแล้วมารับ ของชำร่วยในวันหลัง
      ( และในทางปฏิบัติ ทำให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมร้านใหม่ เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง )

    10. การกระตุ้นโชคลาภในฤกษ์ เปิดร้านค้า ออฟฟิศใหม่
      หากประตูเป็นดาวลาภประจำยุคหรือลาภหนุน และไม่มีดาวบารมีประจำยุค
      และไม่มีดาวบารมีหนุน สามารถกระตุ้นโชคลาภได้
      โดยการจุดประทัดต่อเนื่องกันอย่างน้อย 3 นัด ( หมายถึงโด่งดังอย่างต่อเนื่อง )

      ในกรณีที่ไม่สามารถจุดประทัดได้ สามารถใช้ลูกโป่งหลายใบ แล้วทำให้แตกแทน ( มีเสียงดัง )
      *** ต้องดูฤกษ์ และต้องคำนวณทิศจุดประทัดด้วย เหมาะกับฤกษ์เปิดทรัพย์ 4 ทิศ***



      โดย อ.เกรียงไกร บุญธกานนท์

พิธี ขึ้นบ้านใหม่ / เข้าบ้านใหม่









บ้านเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว
พิธีการ ขึ้นบ้านใหม่ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
โดยกำหนด ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ตามหลักวิชาและสะดวกกับเจ้าบ้าน

ก่อน การขึ้นบ้านใหม่

  1. บริเวณบ้านที่จะไปอาศัยอยู่ หากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้ ๆ
    ให้ไปไหว้แสดงความเคารพ และขอพรให้ท่านคุ้มครองดูแลให้มีความสุขความเจริญ

    และให้ทำบุญสังฆทาน และอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของครอบครัว เจ้าที่
    และวิญญาณที่อาศัยอยู่ในสถานนั้น

  2. ในกรณีที่เป็น บ้านใหม่ หรือบ้านนั้นยังไม่เคยเข้าไปอยู่อาศัย
    ก่อนย้ายเข้า เราสามารถปรับสภาพกระแสภายในบ้านให้ปราศจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย
    โดยการทำ พิธีล้างปรับสภาพ

  3. การทำพิธี ขึ้นบ้านใหม่ ต้องใช้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
    จึงจะเกิดความร่มเย็นเป็นสุข
    ท่านสามารถ หาฤกษ์ ขึ้นบ้านใหม่ ผ่านหน้า บริการหาฤกษ์


ก่อนได้ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่

  1. ให้ดับไฟในบ้าน

  2. ให้ทุกคนออกนอกบ้าน รวมตัวกันที่หน้าบ้าน


เมื่อได้ฤกษ์ ขึ้นบ้านใหม่

  1. ให้เดิน เข้าบ้านใหม่ จัดตั้งองค์พระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อื่น ๆ
    เพื่อให้ท่านช่วยคุ้มครองปกปักรักษา ให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข

    ในทางปฏิบัติ เราควรกำหนดจุดตั้ง และเตรียมอุปกรณที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า
    เพื่อสะดวกในวันทำพิธี และจะได้ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เสร็จทันในฤกษ์

  2. หากต้องการนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาก่อน ให้ใส่กล่องทึบและวางไว้โต๊ะกลางบ้าน
    เพื่อจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับทิศทาง และหากอัญเชิญมาจากที่บ้านเก่าต้องดูฤกษ์อัญเชิญลง

  3. จัดของไหว้ถวาย ( ตามแต่ประเพณีและความนิยมของบุคคล )
    ดีที่สุด ควรเป็นผลไม้ห้าอย่าง ( ครบห้าธาตุ - ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ )
    ไม่ควรเป็นเนื้อสัตว์ เพราะเท่ากับเบียดเบียนชีวิตอื่น

  4. วันแรกให้จุดธูปจริง เทียนจริง เพื่อให้เกิดควัน
    ( ควันเป็นสื่อถึงแสดงออก ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเชิญได้รับรู้ )
    และขอพร ( อย่าขอหลายอย่าง ให้ขอเท่าที่สำคัญและจำเป็น )

  5. ก่อเตาหุงต้ม ( จุดเตาแก๊ส ) คือการเริ่มต้นอยู่กิน และหมายถึงมีกินมีใช้
    ( ในสมัยโบราณจะใช้วิธีการถือ เตาถ่าน เข้าบ้าน แต่ปัจจุบันสามารถใช้วิธีนี้แทน )
    แนะนำให้ต้มขนมอี๋เพื่อเป็นสิริมงคล

  6. ตั้งเตียงและนอนค้างคืน หมายถึงมีที่นอน อยู่เย็นเป็นสุข
    ( ในความเป็นจริงส่วนใหญ่จะตั้งเตียงอยู่แล้ว เราเพียงแต่ดันขยับอีกเล็กน้อยพอเป็นพิธี )
    ( การปูเตียง ก็เพียงยกหมอนขึ้นแล้ววางลง ตบฟูกแบา ๆ )

  7. บุคคลที่ถูกปะทะใน ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ให้เดินตามหลัง
    ( อย่าเป็นผู้เดินนำหน้าหรือเป็นผู้ประกอบพิธี )

  8. หากที่บ้านทิ้งช่วงทำบุญมามากกว่า 1 ปี ควรดูฤกษ์ แต่หากทำต่อเนื่องทุกปีไม่ต้องดูฤกษ์
    ( วิธีที่ง่ายกว่าคือ : ไปทำบุญสังฆทานที่วัด แล้วอุทิศให้เจ้าที่
    และวิญญาณทั้งหลายที่อาศัยในบ้านหลังนี้ ขอให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข )


    โดย อ.เกรียงไกร บุญธกานนท์

ปลวก ปลวก ปลวก ค่าใช้จ่าย ราคามาตราฐาน ประมาณเท่าไหร่ครับ

บ้านพักอาศัยทั่วไปครับ

ราคามาตราฐาน ค่าใช้จ่าย อยู่ที่เท่าไหร่ แล้ว

การรับประกัน มาตราฐานอยู่ที่กี่ปีครับ

ความคิดเห็นที่ 1

ประมาณ 2,000 - 3,000 บาทต่อปีค่ะ

ความคิดเห็นที่ 2

มันขึ้นอยู่กับน้ำยาที่ใช้ และปริมาณที่ผสมน่ะครับ

ถ้าใช้น้ำยาดีหน่อย พวกอาเจนด้า ราคามันแพงน่ะ ราคาตามความเห็น 1 ผมว่าหายากน่ะ ยกเว้นเป็นพวกใช้เชลล์ไดรฟ์ แล้วผสมน้ำเยอะๆ น่ะครับ

ความคิดเห็นที่ 4

ประมาณ 3000 - 8500 นะคับจากร้านที่ใช้บริการอยู่ ราคาขึ้นอยู่กับความถึ่ของช่างที่จะมาบำรุงรักษาให้กลังจากทำครั้งแรกให้แล้ว

ส่วนรับประกันส่วนใหญ่จะปีนึงคับ

ความคิดเห็นที่ 5

ที่บ้านเราใช้บริการกำจัดปลวกเหมือนกัน เนื่องจากเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 50 ตารางวา เสียค่าบริการ 3500.- บาท / 3 ปี สัญญาบริการ มาฉีดทุก 6 เดือน หรือถ้าสงสัยว่าจะมีปลวกหรือมีแมงเม่าบินก็เรียกให้เขามากำจัดได้เลยครับ

ช่วยแนะนำบริษัทกำจัดปลวกที่ดีๆด้วยค่ะ [ที่พักอาศัย]

รบกวนช่วยแนะนำบริษัทกำจัดปลวกที่ผลงานดีทั้งในด้านบริการและมีประสิทธิภาพในการกำจัดปลวกเป็นเยี่ยมด้วยคะ ที่บ้านปลวกขึ้นในบริเวณห้องนำชั้นล่าง บริษัทที่ใช้อยู่มาดูแลฉีดให้แล้วก็ยังไม่หมดปัญหา มันยังออกมาเดินเล่นให้เห็นอีกค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1

คุณรู้มั๊ย บริษัทปลวกที่จ่ายกันแค่หลักพัน...ค่าดูแลนี่เชื่อผมอย่าจ้าง...ไม่มีทางหาย...

ของดีทำแล้วหาย ผมเจอมาแล้ว จ่ายเป็นหมื่น.ๆ...แล้วหายขาดจริงๆด้วย...
ลองไปหาดู...ผมว่าตลาดปลวกรู้จัก


ความคิดเห็นที่ 3

บริษัทดีๆหายากครับ บางทีต้องขุดดินมุดไปใต้บ้านฉีดยาเลย

ความคิดเห็นที่ 4

แล้วเราจะกำจัดเองได้ป่ะ

ความคิดเห็นที่ 5

ของเราใช้ MD House ค่ะ ถ้าเจอปลวกปุ๊ป โทรเรียกได้เลย เค้าจะมาทันที

พอดีบ้านติดกันด้านหลังไม่มีคนอยู่ค่ะ แล้วต้นไม้ก็ขึ้นรกมาก ปลวกมันก็เลยบุก
แถมลามมาบ้านเราด้วย

วันก่อนเราเจอปลวกในสวน โทรเรียกทางร้านมา เค้าก็เลยไปรื้อประตูไม้อัดที่เราวางไว้ใกล้ ๆ
ไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งวางไว้แค่สองอาทิตย์เอง ปลวกเข้าไปกินข้างในตรึมเลย
เค้าฉีกไม้ด้านหน้าออกแล้วฉีดข้างในให้ ปลวกตายหมดเลย

ประสิทธิภาพดีหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ แต่ประทับใจในบริการมาก ๆ


ความคิดเห็นที่ 6

ใช้เป็นเคมีหรือสมุนไพรคะ เราเคยใช้บริการกำจัดปลวกอยู่ค่ะ
เป็นน้ำยาสมุนไพร ตอนนี้ทำมาได้หลายเดือนแล้ว
ไม่เห็นปลวกแล้ว ถ้าสนใจลองโทรหาที่บริษัทดูอ่ะค่ะ
ของนาโนเฮิร์บ เบอร์ 02-888-4800

มีวิธีกำจัดมดโดยไม่ต้องฆ่าให้ตายไหมครับ [ที่พักอาศัย]

ตามหัวข้อครับ คืออยากจะกำจัดมดให้ออกไปจากบ้านครับ แต่ก็ไม่ต้องการฆ่าเค้า เพราะว่าหลายอย่างครับ หนึ่งคือเค้าก็มีชีวิตไม่ต่างจากเรา หนึ่งคือเค้าก็ทำสิ่งที่เราไม่ชอบ เพราะต้องการดำรงชีวิต หนึ่งคือเราเองต่างหาก ก็ใช้ชีวิตที่ไปกระทบระบบชีวิตเค้าเช่นกัน หนึ่งคือถ้ากำจัดด้วยการฆ่า เราต้องฆ่าเป็นสิบเป็นร้อยตัว ส่วนเค้าทำความรำคาญแค่เรา หรือครอบครัวเราครอบครัวเดียว...เฮ้อ ไม่ได้จะแบบธรรมะมากอะไรนะครับ แต่รู้สึกสงสารน่ะครับ

ท่านใดมีคำแนะนำดีดี รบกวนช่วยแนะนำครับ

ความคิดเห็นที่ 1

ดิฉันคิดว่าทุกคนก็คงไม่อยากทำบาป ไม่อยากฆ่า
แต่เรื่องมดเนี่ย ขอให้คุณอย่าคิดมากเลยค่ะ มันเป็นไปได้ยากจริงๆที่จะกำจัดมด โดยไม่ฆ่ามด

ดิฉันเองก็บาปหนักทีเดียวค่ะ ที่มาแนะนำวิธีการฆ่ามดให้คุณ แต่ถ้าคุณไม่ทำซะตั้งแต่ตอนนี้ มดจะเต็มบ้านคุณ แทนที่คุณจะฆ่าแค่ 100 ตัว กลายเป็นว่าสักวันเมื่อมดมันเต็มบ้าน คุณจะต้องฆ่ามันเป็นแสนเป็นล้านตัวค่ะ บาปกว่าอีกค่ะ

เมื่อก่อนดิฉันก็แบบคุณแหล่ะ บ้านดิฉันมีมดตัวเล็กๆ ไม่อยากฆ่ามัน สงสารมัน ปล่อยมัน ช่างหัวมัน ปัดๆเป่าๆมันไปก็พอ

พอเวลาผ่านไปเป็นปีๆ ตอนนี้คุณเชื่อมั้ย มดมันอยู่ทุกซอกทุกมุมในบ้าน เดินพาเหรดทั้งในห้องน้ำ ห้องครัว ห้องรับแขก ห้องทานข้าว โต๊ะคอมที่นั่งอยู่นี่มดมากัดขา กัดแขน กัดมือ ที่แย่กว่านั้นคือมันตายแต่มันทิ้งพิษที่ก้นมันไว้ กลมๆเล็กๆ เดินในบ้านก็ติดเท้า คันด้วยล่ะ มันแย่จริงๆกับไมค์มดที่พวกมันทิ้งไว้

ตอนนี้ดิฉันหมดความอดทนกับมดพวกนี้แล้วค่ะ มันมารุกรานบ้านดิฉัน ลูกก็โดนกัด ขาลายไปหมด พอแกเกามันก็เป็นแผล ดิฉันก็ต้องใช้วิธีขีดชอร์คฆ่ามดอีร่าค่ะ มันได้ผลมากๆ ขีดรอบบ้านด้านนอกเลยค่ะ ช่วงนี้ฝนตกต้องหมั่นตรวจดูค่ะ ด้านในก็ขีด ขวางขบวนพาเหรดของมันค่ะ ตอนนี้ค่อยๆหายไปบ้างแล้วค่ะ แต่ยังมีไมค์มด ไอ้กลมๆเล็กๆคันๆ ของพวกมันค่ะ หล่นตามพื้นค่ะ ต้องใส่รองเท้าเดินในบ้านกันเลยค่ะ

มียี่ห้อนึงที่เป็นตลับเหยื่อล่อมดอันเล็กๆน่ะค่ะ อันนั้นได้ผลดี ราคาแพงมาก แต่ว่ารังมดไม่ได้มีแค่รังเดียวค่ะ มันไม่พอกำจัดค่ะ ต้องชอร์คนี่แหล่ะค่ะ อยู่หมัดค่ะ

เอาเถอะค่ะ ถ้าไม่อยากฆ่ามด เดี๋ยวรอท่านอื่นมาตอบค่ะ เผื่อมีทางออกที่ดีกว่านี้ค่ะ


ความคิดเห็นที่ 2

ถ้าไม่อยากฆ่า ก็คงต้องใช้วิธี ล่อให้ออกมาแล้วย้ายไปทิ้ง โดยหาของหวาน ๆ มาวางล่อไว้ พอมดมาขึ้นที่ของหวานปริมาณหนึ่ง ก็ยกย้ายทั้งยวงไปทิ้งที่อื่น แต่ไม่ค่อยได้ผล เพราะมดจะไม่รุมกันทีเดียว จะทยอยกันขนอาหารกลับรัง อีกทั้งเวลายกย้าย มันก็แตกตื่น เหลือไปทิ้งจริง ๆ ไม่มากเท่าไหร่ครับ


เรื่องฆ่ามด แม่ผมก็เคยบอก เค้าก็ชีวิต เราก็ชีวิต เราทำมาหากิน เค้าก็มาหากินเหมือนกัน ถ้าไม่เบียดเบียน หรือทำให้เดือดร้อนจริงๆ ก็แค่เคาะ ๆ ไล่ ๆ แต่ถ้าหนักหนา ก็ต้องกำจัดครับ


ความคิดเห็นที่ 3

อย่าทิ้งเศษอาหาร พยายามทำให้บ้านสะอาด ไม่รก ไม่เคยเ€ห็นมดขึ้นบ้านโดยไม่มีอาห€รล่อ ไปดูพิพิธภัณฑ์€หุ่นขี้ผึ้งสยาม บ้านแต่ละภาคจะทำร่องน้ำรอบ ๆ ตัวบ้าน กันมด สัตว์เลื้อยคลาน...

ความคิดเห็นที่ 4

จับไปปล่อย จะได้ไหมครับ ทำกับดักให้มันเข้ามาเยอะๆ แล้วเอาไปปล่อย ห้ามจับแรง เดี๋ยวมันตายนะ

ความคิดเห็นที่ 5

เราก็คิดเหมือนคุณ แต่ท้ายสุดก็ต้องให้บริษัทมากำจัด เพราะแค่เทน้ำลงพื้น มดขึ้นมาเกือบพันตัว น่ากลัวมาก ก็เลยจำใจทำ แต่ก็บอกเค้าว่า แค่รอบบ้านนะ แต่นอกเหนือจากนั้น ก็ปล่อยเค้าอยู่อาศัยไปค่ะ ตามต้นไม้ใบหญ้า

แต่ช่างท้ายสุด เค้าก็ดันมาฉีดตามต้นไม้ เราละเหี่ยใจมากจริง ๆ ไม่ชอบเลย แต่ก็ทักท้วงไม่ทัน เอาไว้เดือนหน้าจะห้ามเค้าไว้


ความคิดเห็นที่ 6

แม่ชีสอนว่าเปิดบทสวดไล่แมลงได้
ผมลองมาใช้กับมด
ผมเปิด mp3 มงคลสูตร + กรณียเมตตาสูตร + พาหุง 8 บท + ภะวะตุสัพพ
เปิดดังพอประมาณ บริเวณที่มีมดแดง เวียนไปมาเป็นวันๆ
ที่บ้านไม่มีมดแดงอีกแล้วมาเป็นปีแล้ว
มีแต่มดดำเล็กๆน้อยๆ

1. ผมเชื่อแม่ชี
2. บทที่ผมเปิดผมพอสวดได้อยู่ก่อน ประมาณ 80-90%

หวังว่าคงจะช่วยได้นะครับ


ความคิดเห็นที่ 7

ก่อนอื่น ขอบคุณสำหรับทุกทุกคำตอบครับ @^_^@

#1 ขอบคุณที่เข้ามาให้ความรู้อีกครั้งครับ (คราวที่แล้วที่ถามไปหลังไมค์เรื่องดาวเทียม สุดท้ายก็ไม่ได้ติดครับ แย่จัง เพราะเหล่าสมาชิกลงความเห็นว่ามันมากเกินไป แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ :D)

เรื่องมดนี่ ผมก็มีถึงกับทะเลาะกับที่บ้านทีเดียว แต่ก็ต้องเข้าใจคนอื่นด้วยครับ ล่าสุดมาตามครัวจะเข้าบ้านก็โดนพี่ผมเอาผ้าชุบน้ำมากวาดเรียบ เห็นแล้วก็..เอิ่มม ขัดใจ แต่ไม่รู้ทำยังไงครับ

การขีดชอล์คนี่เป็นวิธีการฆ่า หรือการป้องกันครับ แล้วมันอันตรายต่อมนุษย์ไหม (บอกตามตรงว่าไม่มีความรู้ครับ)

#2 คงจะไม่ใช้การล่อครับ รู้สึกว่ามันไม่ได้ผลอย่างที่ว่าครับ ปกติก็ใช้วิธีเคาะไล่ครับ (แต่ไม่สำเร็จเท่าไหร่)

#3 เรื่องเศษอาหารนี่ ก็พยายามจะทิ้งทุกวันให้ได้ แต่มันก็ไม่แน่ครับ เพราะไม่อยู่บ้านทุกวัน

การทำร่องน้ำรอบบ้าน เห็นจะไม่ทันแล้ว รู้สึกมันจะเข้ามาเป็นเพื่อน(ใน และ ใต้)บ้านมานานแล้วครับ

#4 อันนี้ยากสุดครับ พยายามแล้ว ไม่เวิร์กแต่อย่างใดเลยครับ

#5 บริษัทกำจัดปลวกเข้ามา ก็มีแนะนำเหมือนกันว่าให้เค้าฉีดยาด้วย เค้าบอกว่ามันเป็นสารที่เป็นwater-based ไม่อันตรายต่อมนุษย์ แต่ผมเห็นมันก็ฆ่ามดไปมากทีเดียว เห็นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะครับ

#6 เป็นวิธีที่น่าประหลาดใจมากครับ เพิ่งเคยได้ยิน (บอกตามตรงว่ายังไม่รู้สึกเชื่อสักเท่าไหร่ครับ)แต่ก็น่าสนใจครับ เรื่องแบบนี้ต้องเกี่ยวกับศรัทธาเป็นส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ

ความคิดเห็นที่ 8

สมุนไพร 100 % ไล่ยุง มด แมลงสาบ เห็บ หมัด ในสุนัข
หาซื้อได้ตาม 7-11 แค็ตตาล็อก ทั่วประเทศ ร้าน pets shop ทั่วไป
ร้านโครงการหลวง หรือ ห้างสีใส เคมีภัณฑ์ 02-9325732 086-7878528

ค่าบริการกำจัดปลวก

อยากทราบค่าบริการกำจัดปลวกคะ บ้านเป็นบ้านทาวเฮ้าว์ 2 ชั้น พื้นที่ตัว
บ้านประมาณ 18-20 ตารางวา อายุประมาณ 5 ปี (บ้านมือ 2 ) โทรไปถาม
บริษัทกำจัดปลวกเค้าประมาณว่า 2 หมื่นต้นๆ เป็นแบบสารเคมีอะ สัญญา 3
ปี และฉีดทุก 3 เดือน แพงไปรึเปล่าคะ บอกตามตรงว่าไม่คิดว่าจะแพง
ขนาดนี้ ถ้ามีที่ไหนบริการดี และราคาย่อมเยาหน่อยรบกวนแนะนำด้วยคะ
บ้านอยู่แถวประเวศคะ

ความคิดเห็นที่ 1

ของผม TH 16 ตรว. 7 พัน 3 ปี ครับ มาดูทุก 3 เดือน เจาะพื้นแล้วอัดนำยาลงดิน

ความคิดเห็นที่ 2

ของผมบ้านเดี่ยว 50 ตารางวา
เจาะพื้นอัดน้ำยาลงดิน ครั้งแรก สัญญา 1 ปี มาดูแลฉีดน้ำยาเพิ่ม
ตามริมบ้าน ทุกเดือน
ราคา 5000 บาท


ความคิดเห็นที่ 3

ทาวเฮ้า โอกาสกำจัดได้ร้อยเปอร์เซ้นนั้นทำได้ยากมากครับ
เพราะเราทำบ้านอื่นไม่ทำ ปลวกก็เข้าได้จากบ้านอื่น
ต้องทำใจครับ


ความคิดเห็นที่ 4

อย่าทำเลยครับ เสียดาย
ทำไปก็ไม่หาย การฉีดพ่นเป็นแค่การไล่ปลวก
คิดดูซิครับ 95% ของปลวกมันทำรังใต้ดินครับ อีก5% อยู่ในบ้านเรากินบ้านเราอยู่ ฉีดพ่นไปก็ กำจัดได้ 5% เท่านั้นเอง ต้องกำจัด 95% ที่อยู่ใต้ดิน ถึงจะหายขาดครับ แล้วปลวกนี้วันนึงออกไข่ได้เป็นหมื่นๆฟองครับ

2หมื่นกว่าบาท ทำได้แค่แก้ไขเฉพาะหน้าเองครับ

ถ้าจะเอาแบบดีๆ ผมแนะนำเซนตริคอนครับ อันนี้หายขาดจริง แต่ราคาสูงกว่าฉีดพ่น

บ้านทาวเฮ้าว์ ราคาน่าจะอยู๋ 18000 -20000 ต้นๆนะ แต่แค่1ปี


ความคิดเห็นที่ 5

ใช้สมุนไพรค่ะ 4000 สัญญา 1 ปี
ลองโทรคุยดูค่ะ 02-393-3377


ความคิดเห็นที่ 6

บ้านเดี่ยว..แถวศรีราชา ไม่แน่ใจว่าราคาต่างจังหวัดกับกรุงเทพจะต่างกันมั้ยนะคะ เพิ่งให้เค้าฉีดกำจัดปลวกมดแมลงรอบๆบ้านไป ครั้งละ 2,000 หรือถ้าเป็นรายปี 5,000 และจะมาฉีดให้ทุกเดือนค่ะ

ความคิดเห็นที่ 7

สมุนไพรครับ 6ครั้ง/ปีรับประกัน มีปัญหาฉีดฟรี 083-0324407

ขนาดของเสาเข็ม (ที่พักอาศัย)

เพื่อนๆเคยมีประสบการจ้างผู้รับเหมา หรือบริษัทสร้างบ้าน เคยมีข้อสงสัยกันไหมคะว่า เสาเข็มที่เค้านำมาตอกแต่ละเสา หรือ ที่ทำรากฐาน มีขนาดเท่าไหร่ และได้มาตรฐานจริงหรือไม่ คือเราเองคิดกลัวว่าผู้รับเหมาอาจจะอยากประหยัดงบเลยใช้ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ไว้ก่อน ซึ่งมันอาจจะไม่เป็นอันตรายก็จริง แต่ถ้าเราผู้เป็นเจ้าของบ้านรู้มันก็จะรู้สึกไม่ดีนะคะ

เพิ่มเติมนิดนึงคะ ขอแก้ขนาดเสาเข็มเป็นขนาดของเหล็กเส้นนะคะ คือสงสัยเรื่องขนาดของเล็กเส้นที่เอามาทำเสานะคะ

ขณะที่เพิ่งโพสกระทู้นี้ก็ได้เข้าไปศึกษาหาข้อมูล ไปเจอเจ้าของกระทู้อื่นได้เอารูปบ้านที่กำลังลงเสาเข็มมาโชว์ เห็นเหล็กเส้นใหญ่กว่าบ้านเรามากๆ ทั้งๆที่ขนาดบ้านก็น่าจะใก้เคียงกัน ยิ่งรู้สึกแย่ไปกันใหญ่เลยคะ แต่ก็ไม่กล้าบ่นกับผู้รับเหมาเพราะว่าเค้าคงจะให้คำตอบเหมือนกับที่อื่นๆว่า แล้วแต่วิศวะกำหนด ซึ่งขนาดเท่าที่ให้ก็เพียงพอแล้ว แล้วเราเองก็ไม่รู้จริงซะด้วย จะไปเถียงข้างๆคูๆก็ไม่ได้ เครียดคะ แต่เค้าก็ลงไปจนเกือนเสร็จแล้วคงแก้ไขอะไรไม่ได้คะเพียงแต่อยากถามผู้รู้เท่านั้นว่าความจริงควรจะเป็นอย่างไร

ความคิดเห็นที่ 1

vอพูดในฐานะที่เป็นสถาปนิกนะครับ

ไม่ลองตรวจสอบดูในแบบก่อสร้างล่ะครับ

ถ้าตรงตามแบบแล้วยังติดใจก็ลองดูว่าใครเป็นวิศวกรที่ออกแบบให้บ้านเราแล้วลองติดต่อคุยกับเค้าดูถ้าเค้ายืนยันก็สบายใจได้วิชาชีพเค้าเค้าไม่เอามาเสี่ยงกับบ้านเราแค่ไม่กี่ตังค์หรอกครับ...เพราะโทษรุนแรงถึงvนาดยึดใบประกอบวิชาชีพเลยนะครับ

ส่วนกรณีที่ผู้รับเหมาจะโกงหรือซิกแซกนี่ก็มีความเป็นไปได้ครับ..อยู่ที่ว่าคุณได้ผู้รับเหมาที่มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน

ถ้ากลัวว่าจะตรวจสอบไม่ทันกับเวลาที่ผู้รับเหมาทำการก่อสร้างก็แนะนำให้ถ่ายรูปไว้ครับ..ถ่ายรูปให้เห็นเหล็กก่อนประกอบแบบเทปูนในส่วนvองงานโครงสร้าง ซึ่งคงจะช่วยทำให้ผู้รับเหมาไม่กล้าที่จะโกงได้บ้าง หรือถ้าโกงรูปถ่ายก็ยังใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดได้


ความคิดเห็นที่ 2

1.เสาเข็มต้องมีมอก.
2.ตอกไม่เยื้องศูนย์ (ตอกไม่ตรง)
3.การรับน้ำหนักชองเสาเข็ม ให้ดูจากขนาดและความยาว


ความคิดเห็นที่ 3

.. ใช้แบบก่อสร้างที่มีสถาปนิกและวิศวกร เซ็นในแบบ เป็นเกณฑ์ครับ ..

ความคิดเห็นที่ 4

เป็นผู้รับเหมาตอกเข็มครับ
ถ้าเป็นเสาเข็มตอกก็ควร ข้างขนาดเสาเข็มหน้าตัด I-0.18 ไปเลย เพราะ ไม่มี มอก. บ้าน2ชั้นก็ควรใช้เป็นขนาดหน้า I-0.22 ขึ้นไป ถ้าต้องการความปลอดภัยสบายใจมากขึ้นกว่าบ้านจัดสรร ก็ขนาดหน้าตัด I-0.26 ส่วนความยาว ตั้งแต่18-24 เมตรแล้วแต่พื้นที่ ส่วนในเขตกทม. ที่เป็นดินอ่อน เสาเข็มควรใช้หน้าตัดตัว -I เนื่องจากมีเส้นรอบรูปของเสาเข็มมากกว่าเสาสี่เหลี่ยม มี Fixsion ในการรับน้ำหนักได้ดีในดินอ่น

ตอกเสาเข็มเนี่ย เค้าคิดราคากันยังไงคะ เราจะสามารถคำนวณคร่าวๆ ได้มั้ยคะ


คือกำลังจะปลูกบ้านค่ะ บ้าน 2 ชั้นขนาด พื้น
ที่ใช้สอย 500 ตร.ม. อยู่ต่างจังหวัด พื้นที่ไม่มีปัญหาเรื่องดินทรุด แต่ว่า อยู่ใกล้กับแม่น้ำ ก็เลยคิดว่าตอกเสาเข็มด้วยน่าจะเพิ่มความมั่นใจได้มากกว่า แต่ไม่รู้ว่าเราจะคำนวณคร่าวๆได้ยังไงว่า ควรจะเตรียมงบประมาณไว้เท่าไหร ่เผื่อจะเป็นความรู้เอาไว้คุยกับผู้รับเหมาได้ค่ะ กลัวโดนโก่งเรื่องราคา ไม่รู้เป็นอะไร ซื้ออะไรเป็นต้องได้ของแพงกว่าคนอื่นอยู่เรื่อย ทั้งๆที่คนขายก็บอกตลอดว่า ราคาพิเศษๆๆ ไม่รู้ว่าทำไม มันกลายเป็น แพงเป็นพิเศษไปได้ ทุ๊กที

รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ


ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับน้ำใจของทุกท่านค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1

ได้เลยครับ ผมเลือกเข็มไอ ให้นะครับ ส่วนความยาวของเสาเข็ม ดูตามหน้างาน ใกล้ ที่ ตอกเข็ม เอาเองนะครับ ว่า ตอกลึกลงไป กี่เมตร

1 เสาเข็ม I 0.22 x 0.22 x 11 m. ( ของ+แรง ) 2200 บ / ต้น
2 เสาเข็ม I 0.26 x 0.26 x 14 m. ( ของ+แรง ) 3200 บ / ต้น
3 เสาเข็ม I 0.26 x 0.26 x 21 m. ( ของ+แรง ) 5200 บ / ต้น

ยังไม่รวม ค่า ขนส่ง นะครับ


ความคิดเห็นที่ 2

วิธีตรวจสอบง่ายๆครับ...

http://www.price.moc.go.th/content1.aspx?cid=18

เข้าไปแล้วเลือกราคาในเขตกรุงเทพฯก่อนครับ เพราะมันจะมีหลายหมวดครบถ้วน...เอาราคากรุงเทพเป็นราคาตั้ง ถ้าต่างจังหวัดมันจะมีเพียงบางรายการที่จำเป็นพื้นฐานของจังหวัดนั้นๆ...

ดังนั้นดูที่ราคากรุงเทพเป็นหลัก..แล้วไปคูณเพิ่มตามดัชนีราคาสินค้าของแต่ละจังหวัด เป็นราคาของจังหวัดนั้น...หรือค่าขนส่งเฉลี่ยเข้าไป


ความคิดเห็นที่ 3

เวลาถามราคาจากผู้รับเหมาเข็ม ต้นละเท่าไหร่ คุณก็เอารายที่ราคาใกล้เคียงราคาตั้งนี่แหละครับ...ต้องสอบถามหลายราย ในกรุงเทพอาจจะง่ายในการตรวจสอบ

แต่ต่างจังหวัด มันแคบ การแข่งขันน้อย บางทีร
าคามันตั้งฮั้วกัน..ถามกี่รายก็ตอบเหมือนกัน..มันโทรส่งซิกไปทันที...ในวงการของตลาดต่างจังหวัด...

ราคาตามที่แจ้งในเว็ปไซต์ของราชการนั้น มันเป็นเฉพาะต้นทุนเข็ม ไม่รวมภาษี..ดังนั้นคุณต้องบวกไปอีก 7 % เป็นต้นทุนบวกภาษี แล้วบวกค่าดำเนินการ(เครื่องจักรและอุปกรณ์ ค่าน้ำมันฯลฯ) ค่าแรงคนงาน กำไร ของผู้รับเหมาะงา
นเข็มอย่างน้อยๆก็เพิ่มไปอีก 30 % เอาราคานี้ไปเทียบดู เป็นเบื้องต้น อย่างน้อยคุณรู้ที่มาของมันว่ามีอะไรบ้าง ก็จะได้ต่อรอง พูดคุยได้ว่า ควรต่อรองที่ส่วนไหน...แยกออกมาได้ว่า อะไรเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ อะไรเป็นส่วนที่ต่อรองได้ขึ้นกับวิธีคิดของผู้รับเหมางานเข็มโดยตรง

ความคิดเห็นที่ 4

อย่าด่วนสรุปเองว่าบ้าน 2 ชั้นของคุณ ที่ติดใกล้เเม่น้ำ ในต่างจังหวัดจําเป็นต้องมีการลงเสาเข็ม ลองปรึกษาผู้รับเหมางานบ้านคุณ เเละ ตรวจสอบอาคารบ้านพักในเเถวนั้นว่าเป็นการปลูกสร้างที่จําเป็นต้องมีเสาเข็มหรือไม่ มีควรมีความยาวของเสาเข็ม อยู่เท่าไร

ไม่ทราบว่าบ้านคุณที่จะสร้างอยู่จังหวัดไหน เเละ ใกล้เเม่น้ำอะไร ถ้าเป็นทางภาค อีสาน เเละเป็นใกล้เเม่น้ำชี ในบางที่ไม่จําเป็นต้
องมีการตอกเสาเข็มอะ


เพื่อความมั่นใจของคุณ อาจจะเป็นการเสียเงินฟรีมากกว่านะครับ ควรทําการบ้านในเรื่องสภาพดินเเถวนั้นก่อนครับ ไม่งั้นเจ้าของบ้านอาจจะเสียเงินเเละเสียเวลา ที่ต้องมาเเก้เเบบเเก้ไข งานฐานรากทั้งหมดใหม่อีก 1เดือน ในงานก่อสร้างขนาดใหญ่หากเอาง่ายๆก็จะมีการตอกเสาเข็มเทสประมาณ 2-3 จุดครับ เเต่ในกรณีบ้านพักต้องมีการสอบถามทางฝ่าย โยธาอําเภอ หรือ บ้านพักเเถวนั้นว่ามีการตอกเข็ม หรือ ไม่มีครับ( ที่ทางอีสานบางที่ คุณขุดหลุมลงไปเลยหน้าขาก็เเทบขุดไม่ลงเเล้วครับ )


ความคิดเห็นที่ 5

ใน ตจว. ไปที่เทศบาล บางแห่งเขามีรถ JBC ให้เช่า คิดค่ากดชั่วโมงละ 1000 บาท กดได้ตั้งชั่วโมงละเกือบ 10 ต้น

ความคิดเห็นที่ 6

ของที่บ้านอยู่นครชัยศรี
เสาเข็ม I 0.26 x 0.26 x 21 m.
215 บ x 21 m. = 4515บ / ต้น
มี มอก.
ค่าตอก เหมา 16 ต้น 30000บาท


ความคิดเห็นที่ 7

และแล้ว.....ก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับน้ำใจงามๆ ของทุกท่านค่ะ _/\_ กว่าบ้านหลังนี้จะเสร็จ ดิฉันคงต้องรบกวนท่านผู้รู้ในนี้อีกซักพักหนึ่งค่ะ ตอนนี้กำลังเช็คราคาวัสดุก่อสร้างค่ะ ทางร้านค้าก็เร่งยิกๆ เลยว่าให้รีบซื้อเหล็กเส้นไปก่อนเพราะราคาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แทบจะทุกๆ 3 วัน ( เอ่อ... มันไวขนาดนั้นเลยเหรอคะ ก็รู้ว่าราคาเหล็กมันสูงขึ้นเยอะอ่ะนะ แต่แหม......)

อ่อ..ทางคนเขียนแบบบ้านให้เค้ากำหนดให้ใช้เสาเข็ม I 0.18 x 0.18 ลึก 6 เมตร เอ่อ.. 0.18 เนี่ยคืออะไรคะ



อีกอันหนึ่งค่ะ คือโครงสร้างหลังคาเนี่ยจะเป็นโครงสร้างเหล็ก หลังคาเป็นซีแพคโมเนียค่ะ คนเขียนแบบเค้าเขียนว่า จันทันเหล็กเนี่ย ให้ใช้เหล็กซีประกบคู่ ขนาด 100x50x20x3.2 แต่คนรับเหมาค่าแรง เค้าบอกว่า เอาเหล็กกล่องไม้ขีด 4x2x3.2 แทนก็ได้ รับน้ำหนักได้พอๆ กันและประหยัดได้มากกว่า แต่พอไปคุยกับเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง เค้าก็ยืนยันว่า ควรจะใชเหล็กซีประกบคู่เหมือนเดิม เพราะราคาถูกกว่าเหล็กกล่องไม่ขีด ณ น้ำหนักเหล็กที่เท่ากัน

ดิฉัน งง เลยค่ะ ก็เลยถามคนข
ายวัสดุก่อสร้างว่า ราคาเหล็กกล่องไม้ขีดไซส์นี้ มันน่าจะถูกกว่าเหล็กซีประกบคู่ไม่ใช่เหรอค่ะ ( เชื่อผู้รับเหมาค่ะ ) แต่เค้าตอบกลับมาว่า ถ้าเป็นเหล็กกล่องไม้ขีดที่น้ำหนักเท่ากันหน่ะ จะแพงกว่า อ่าว.... งงไปใหญ่ ก็บอกไซส์ไปแล้วนิคะ ทำไมต้องดูน้ำหนักด้วยเหรอ เค้าก็ตอบว่า ไซส์เดียวกัน แต่น้ำหนักมีแตกต่างกัน แล้วแต่จะเลือกว่าจะเอา น้ำหนักเท่าไหร่ ผู้รับเหมาเค้าขี้เกียจเชื่อมเหล็ก เค้าก็เลยแนะนำให้ใช้เหล็ก กล่องไม้ขีดแทน ( มีแบบนี้ด้วยเหรอคะ ไซส์เหล็กเดียวกัน ประเภทเดียวกัน แต่น้ำหนักต่างกัน )

เอาล่ะค่ะ ไม่รู้จะเชื่อใคร ระหว่างผู้รับเหมาขี้เกียจเชื่อมเหล็ก กับ เจ้าของร้านที่อยากจะขายของที่ราคาแพงกว่า

รบกวนผู้รู้ ช่วยแนะหน่อยว่า ว่าที่จริงในสกานการณ์แ
บบนี้ ความจริงมันควรจะเป็นแบบไหนกันแน่

ความคิดเห็นที่ 8

เสาเข็ม I 0.18 x 0.18 ลึก 6 เมตร เอ่อ.. 0.18 เนี่ยคืออะไรคะ ดูรูป ครับ Xp = Dp ครับ


กำหนดเสาเอก เสาโทยังไง (ที่พักอาศัย)

เสาเอกอย่างเดียวก็พอ เสาโทไม่ต้องก็ได้
เอาไปอ่านหมดเลยแล้วกัน เรารวบรวมไว้ดังนี้
อ้อ เดือนข้างล่าง ใช้เป็นเดือนไทยนะ

----------------------------------------------------------------------
ยกเสาเอก
----------------------------------------------------------------------


ของใช้ในพิธี
- จัดโต๊ะหมู่บูชา ๑ ชุด พร้อมเครื่องสักการะ
- จตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ ๑ ชุด (กรณีนิมนต์พระมาประพรมน้ำมนต์ที่หลุม และเจริญชัยมงคลคาถา)
- เครื่องบูชาฤกษ์หรือสังเวยเทวดา (จัดย่อส่วนก็ได้ ดูพิธีวางศิลาฤกษ์)
- ใบทอง นาก เงิน อย่างละ ๓ ใบ
- เหรียญทอง เงิน อย่างละ ๙ เหรียญ
- ทรายเสก ๑ ขัน
- น้ำมนต์ ๑ ขัน (พร้อมกำหญ้าคา ๑ กำ)
- ด้ายสายสิญจน์ ๑ ม้วนเล็ก
- ทองคำเปลว ๓ แผ่น
- ผ้าแพรสีแดง ห่มเสา หรือผ้าขาวม้า ๑ ผืน
- หน่อกล้วย อ้อย อย่างละ ๑ หน่อ
- ไม้มงคล ๙ ชนิด
- แผ่นทอง นาก เงิน อย่างละ ๑ แผ่น
- ข้าวตอกดอกไม้ ๑ ขัน



ลำดับพิธี
- วางสายสิญจน์ เริ่มจากโต๊ะบูชาไปโต๊ะสังเวยขวาบริเวณสถานที่ก่อสร้างเข้าสู่เสาเอก (ก่อนเวลาฤกษ์พอสมควร)
เจ้าภาพ - จุดเทียนธูปที่โต๊ะหมู่บูชา อธิษฐานเพื่อเกิดสิริมงคล กราบพระ
- จุดเทียนธูปที่โต๊ะสังเวย บูชาเทวดาให้คุ้มครอง

พิธีกร - กล่าวสังเวยเทวดา

เจ้าภาพ - ตอกไม้มงคล ๙ ชนิด
- วางแผ่นทอง นาก เงินในหลุมเสาเอก
- นำใบทอง นาก เงิน และเหรียญทอง เงิน ลงก้นหลุมแล้วนิมนต์พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์
โปรยทรายเสกที่หลุมเสา

- เจิมและปิดทองเสาเอก
- ผูกหน่อกล้วย อ้อย และผ้าสีแดงหรือผ้าขาวม้าที่เสาเอก
- ถือด้ายสายสิญจน์ พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี
ช่าง - ช่วยกันยกเสาเอก จนตั้งเรียบร้อย (ขณะยกเสานั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา) (ถ้ามี)

เจ้าภาพ - โปรยข้าวตอกดอกไม้ลงหลุมเสาเอก พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี เสร็จพิธี


หมายเหตุ - ถ้ายกเสาเอกในเดือนอ้าย ยี่ สาม เสาเอก อยู่ทิศอีสาน
- ถ้ายกเสาเอกในเดือน ๔ - ๕ - ๖ เสาเอก อยู่ทิศอาคเนย์
- ถ้ายกเสาเอกในเดือน ๗ - ๘ - ๙ เสาเอก อยู่ทิศหรดี
- ถ้ายกเสาเอกในเดือน ๑๐ - ๑๑ - ๑๒ เสาเอก อยู่ทิศพายัพ

- เมื่อธูปที่โต๊ะสังเวยไหม้หมดดอก ให้ลาเครื่องสังเวยได้ว่า "เสสัง มังคะลัง ยาจามิ"
- หน่อกล้วย อ้อย เมื่อช่างเอาลงจากเสาแล้ว ให้นำไปปลูกไว้ในที่ต้องการ เพื่อเสี่ยงทายว่าจะงอกงามเพียงใด
- ถ้าจัดโต๊ะสังเวยไม่ได้ จะจัดเป็นสำรับบูชาพระภูมิเจ้าที่ธรรมดาก็ได้ และสิ่งประกอบอื่น ๆ
ก็เลือกเอาเท่าที่จำเป็นและหาได้ง่าย



ไม้มงคล 9ชนิด ซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์ทั่วไป


ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ก่อนทำการก่อสร้างนิยมทำพิธีวางศิลาฤกษ์โดยใช้ไม้มงคล 9 ชนิด ปักกับพื้นดินไม้ทั้ง 9 ชนิดมีชื่อเป็นมงคลนาม ดังนี้

1. ไม้ราชพฤกษ์ หมายถึง ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา
2. ไม้ขนุน หมายถึง หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน
3. ไม้ชัยพฤกษ์ หมายถึง การมีโชคชัย ชัยชนะ
4. ไม้ทองหลาง หมายถึง การมีเงินมีทอง
5. ไม้ไผ่สีสุก หมายถึง มีความสุข
6. ไม้ทรงบาดาล หมายถึง ความมั่นคง หรือทำให้บ้านมั่นคงแข็งแรง
7. ไม้สัก หมายถึง ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ
8. ไม้พะยูง หมายถึง การพยุงฐานะให้ดีขึ้น
9. ไม้กันเกรา หมายถึง ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่าตำเสา ซึ่งอาจหมายถึง ทำให้เสาเรือนมั่นคง

ไม้มงคลเหล่านี้จะลงอักขระที่เรียกว่า หัวใจพระอิติปิโส ได้แก่ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ลงบนท่อนไม้ชนิดละอักขระ พร้อมทั้งปิดทองทั้ง 9 ท่อน โดยปักวนจากซ้ายไปขวา (ทักษิณาวรรต)



ปฏิทินฤกษ์ดี ยามมงคล เหมาะแก่การหาดูฤกษ์ที่เหมาะสมแก่งานนั้นๆ
http://www.mahamodo.com/tamnai/good_time.asp
ควรอ่าน และทำความเข้าใจให้ละเอียด โดยเฉพาะวันที่ไม่เป็นมงคลกับวันเกิด ให้ห้ามเด็ดขาด
ฤกษ์ที่เหมาะกับงานมงคลนั้น ได้แก่ มหัทธโณฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์
ส่วนราชาฤกษ์ และสมโณฤกษ์นั้น หากไม่มีมหัทธโณฤกษ์หรือภูมิปาโลฤกษ์ที่เหมาะสม ก็อนุโลมให้ใช้ราชาฤกษ์ และสมโณฤกษ์ได้

ของที่ใช้ในพิธีลงเสาเอก (ที่พักอาศัย)

ของพวกนี้ซื้อกันที่ไหนหรือคะ
- ใบทอง นาก เงิน
- พลอย 9 สี
- ไม้มงคล
- กล้วย, อ้อย

รบกวนผู้รู้ด้วยคะ


ร้านสังฆภัณฑ์ทั่วไป ถ้าให้ดีหาร้านใหญ่ๆหน่อย ไม้มงคลต้องมี เก้าชนิดน่ะครับ

ใส่ ทองคำแท้ ไว้ทุก เสา ครับผม
อันนี้ แล้วแต่ความเชื่อ นะครับผม
ที่บ้านเพิ่ง ทำพิธี ครับ
ใส่ เลก ๆ พอเปนพิธี ครับ จะทำให้คนที่อยู่ เปนเศรษฐี ครับ
ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณาณครับ

ใส่สตางค์ลงไปด้วยค่ะ

1. อิฐ เงิน ทอง นาค รองก้นหลุม หรือไม้มงคล 9 อย่าง
2. ธูปทอง เทียนทอง อย่างละ 1
ธูปเงิน เทียนเงิน อย่างละ 1
กระแจะเจิมเสา
ผ้าผูกปลายเสาสีตามวัน
เงินเหรียญ สำหรับใส่ก้นหลุมเอาเคล็ด
หรือหินสีต่างๆ แทนอัญมณี
3. ต้นกล้วยเล็กๆ และต้นอ้อย เล็กๆ สำหรับ มัดที่ปลายเสาเอก
(เมื่อยกขึ้นตั้งเรียบร้อยแล้ว ค่อยให้คนงานปีนไปปลดลงมา
แล้วเก็บเอาไว้ปลูกเสี่ยงทาย...อย่าลืมให้รางวัลคนปีนด้วย)
4. ผ้ายันต์ สำหรับปิดหัวเสา ทุกเสา
(ปกติ จะมี เสาเอา โท ตรี....แต่จะยกเฉพาะเสาเอกก็ได้)
5. ผ้าแพรสำหรับห่มเสา
6. เสา เอก-โท-ตรี ก่อนวันงาน ต้องทำความสะอาด
เช็ดฝุ่น อย่าให้มีรอยเท้า คน หรือสัตว์
หา หมอนไม้หนุนให้สูงขึ้นจากพื้น อย่าให้เปื้อนดิน
ผูกผ้าแพรสีตามวัน
7. เครื่องสังเวย ใช้เหมือนศาลพระภูมิ คือ หัวหมู บายศรี ขนมมงคล
8. ถ้าจะทำขวัญเสาเอก ก็ให้ทำให้เสร็จก่อนเวลาฤกษ์
โดยเพิ่มบายศรี คู่ อีก 1 คู่ สำหรับทำขวัญเสา

เตรียมของไหว้ เพื่อทำพิธีขึ้นเสาเอก - เสาโท

ของที่โครงการเตรียมให้
1.ไม้มงคล
2.เพชร 9 สี
3.แผ่นเงิน ทอง นาค
4.ผ้าแพรสามสี
5.แผ่นทองติดเสา
6.ข้าวตอก ถั่วเขียว งา

ของที่ผมต้องเตรียม
1.ผลไม้ 5 อย่าง (ควรใช้ผลไม้อะไรดีครับ)
2.บายสีปากชาม
3.ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
4.หมูชิ้น ไก่ต้ม ไข่ (ควรใช้ไข่กี่ฟอง 8 หรือ 9 ดีครับ)
5.ข้าว
6.น้ำดื่ม (จำเป็นต้องมีเหล้ารึป่าวครับ)
7.ดอกไม้ กลีบกุหลาบ ดอกมะลิ ดาวเรือง ดอนบานไม่รู้โรย
8.พวงมาลัยดาวเรือง
ต้องมีอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้รึป่าวครับ

ควรมีเหล้าสี คนงานชอบ

จำนวนไข่น่าจะขึ้นกับวันเกิดเจ้าของ ถ้าเกิดวันศุกร์ ก็ 27 ใบเลย เขาว่ากำลังพระศุกร์ เอาไปเยอะๆ ไว้แจกคนงาน เป็นการทำบุญ

ผลไม้ควรเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ทุเรียน มังคุด เงาะ มะม่วง ลิ้นจี่ (ผมชอบ ดังนั้น คนงานก็คงชอบเช่นกัน)


ผมเห้นเขาผูกต้นกล้วยต้นอ้อยที่เสาเอกเสาโทด้วย
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...