แล้วแต่จะเชื่อ!
ตัวอย่างการถมดินสระน้ำ
ช่วงนี้ มีการสร้างบ้านใหม่กันค่อนข้างมาก
โดยนิยมซื้อที่ดินเปล่าแล้วมาออกแบบบ้านเอง
ซึ่งจะได้บ้านที่ถูกใจมากกว่าไปซื้อบ้านจัดสรรทั่วๆ ไป
ปัญหาแรกที่ผมมักจะถูกถามก็คือ เรื่องของการถมที่ดินครับ
เพราะเป็นเรื่องแรกที่จะต้องทำก่อนการสร้างบ้าน นั่นเอง
ความจริง ประเด็นนี้ หลายคนอาจนึกในใจว่า ไม่น่าจะเป็นคำถามเลย เพราะยังไงก็ต้องสร้างบ้านให้ที่ดินสูงกว่าถนนอยู่แล้ว ถูกครับ แต่ใช่ว่าจะถูกทั้งหมด เพราะถ้าถมที่ดินสูงเกินไป อาจสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นได้
หลักฮวงจุ้ยพูดเอาไว้เสมอว่า ทุกอย่างต้องสมดุล ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ต้องพอดีๆ ครับ อะไรที่สูงเกินไป ต่ำเกินไป ย่อมกลายเป็นผลเสียทั้งสิ้น ที่ดินที่ต่ำกว่าถนน เป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่ก็รู้กันอยู่แล้วว่า ไม่ดี
แต่เดี๋ยวนี้ คนไม่ได้ดูแค่ถนนกันแล้ว แต่จะเปรียบเทียบจากบ้านข้างๆ ว่าสูงเท่าไร
บ้านที่จะสร้างใหม่จะต้องสูงกว่า ทำให้พื้นที่ดินเกิดความสูงต่ำไม่เท่ากัน บางบ้านถมที่สูงกว่าถนนมาก ทำให้เสียสภาพที่ดีไปในทันที
ตาม หลักฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า บ้านที่ยกพื้นดินสูงกว่าถนนหน้าบ้านมากๆ จะทำให้กระแสชี่ไหลเข้าบ้านลำบาก ไม่ราบรื่น เปรียบเสมือนมีภูเขาหรือเขื่อนกั้นอยู่หน้าบ้าน ซึ่งหมายถึงเป็นบ้านขัดทรัพย์ไปอย่างน่าเสีย
ความจริง ประเด็นนี้ หลายคนอาจนึกในใจว่า ไม่น่าจะเป็นคำถามเลย เพราะยังไงก็ต้องสร้างบ้านให้ที่ดินสูงกว่าถนนอยู่แล้ว ถูกครับ แต่ใช่ว่าจะถูกทั้งหมด เพราะถ้าถมที่ดินสูงเกินไป อาจสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นได้
หลักฮวงจุ้ยพูดเอาไว้เสมอว่า ทุกอย่างต้องสมดุล ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ต้องพอดีๆ ครับ อะไรที่สูงเกินไป ต่ำเกินไป ย่อมกลายเป็นผลเสียทั้งสิ้น ที่ดินที่ต่ำกว่าถนน เป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่ก็รู้กันอยู่แล้วว่า ไม่ดี
แต่เดี๋ยวนี้ คนไม่ได้ดูแค่ถนนกันแล้ว แต่จะเปรียบเทียบจากบ้านข้างๆ ว่าสูงเท่าไร
บ้านที่จะสร้างใหม่จะต้องสูงกว่า ทำให้พื้นที่ดินเกิดความสูงต่ำไม่เท่ากัน บางบ้านถมที่สูงกว่าถนนมาก ทำให้เสียสภาพที่ดีไปในทันที
ตาม หลักฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า บ้านที่ยกพื้นดินสูงกว่าถนนหน้าบ้านมากๆ จะทำให้กระแสชี่ไหลเข้าบ้านลำบาก ไม่ราบรื่น เปรียบเสมือนมีภูเขาหรือเขื่อนกั้นอยู่หน้าบ้าน ซึ่งหมายถึงเป็นบ้านขัดทรัพย์ไปอย่างน่าเสีย
วิธีที่ดี จะต้องพิจารณาระดับของพื้นถนนเป็นหลักครับ โดยปกติทั่วไปความสูงในการถมที่ดินจะอยู่ในระดับ 50-80 เซนติเมตร จากระดับของถนนหน้าบ้าน ยกเว้นว่า รู้แน่ๆว่าจะมีการทำถนนใหม่ด้านหน้าบ้านให้สูงขึ้น อาจจะถมที่ดินเผื่อไว้ให้สูงกว่าระดับนี้ได้ครับ
กรณีสร้างบ้านบนเนินอาจถมที่ดินให้มีความต่างระดับกันก็ได้ โดยส่วนของตัวบ้านที่อยู่บนเนินอาจมีระดับที่สูงกว่าระดับ 50-80 เซนติเมตรก็ได้ แต่ถ้าถมสูงมากจะต้องปรับพื้นแบบไล่ระดับ โดยพิจารณาจากถนนหน้าบ้านเป็นหลัก
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งในเรื่องของการถมที่ดิน
ที่ต่างระดับกัน จะต้องคำนึงถึงเรื่องการไหลของน้ำเวลาฝนตกด้วย
หลักฮวงจุ้ยบอกว่า บ้านต้องไม่อยู่ในตำแหน่งรับน้ำ หรือน้ำไหลชนตัวบ้าน
ส่วนใหญ่การปรับระดับของที่ดิน มักจะนิยมทำในลักษณะที่เป็นเนินหลังเต่า
เวลาฝนตกน้ำจะไหลข้างตัวบ้านทั้งสองทาง เพราะฉะนั้น
การถมที่ดินในลักษณะเนินหลังเต่า จึงถือว่าเข้าลักษณะที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย
นอกจากนี้ เรื่องของการถมที่ดินเพื่อปลูกสร้างบ้าน ยังมีเคล็ดลับเกี่ยวกับการนำดินมาถมอีกด้วย โดยในตำราจะบอกเอาไว้ว่า ดินที่นำมาถมนั้น จะต้องเป็นดินที่มีคุณภาพดี มาจากแหล่งที่ดี ห้ามนำพวกขยะ เศษหิน เศษปูน มาถม ดินส่วนใหญ่ที่ดีจะต้องไม่มีประวัติที่เสีย เช่น เป็นดินที่ขุดมาจากสถานที่ ที่เคยเกิดภัยพิบัติ ไฟไหม้ ตึกถล่ม สุสาน หรือสถานที่ที่มีคนตายหมู่ ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าอัปมงคลอย่างยิ่ง เพราะดินจะมีเชื้อแห่งความสูบเสียและจิตวิญญาณของคนตายติดมาด้วย
ดินที่มีลักษณะดี ส่วนใหญ่จะเป็นดินร่วนผสมดินเหนียว ซึ่งเป็นดินที่เหมาะกับ
การเพาะปลูก แหล่งดินส่วนใหญ่ที่นำมาถม จึงได้มาจากทุ่งนา ไร่สวน ที่มีสภาพดินที่ดีอยู่แล้ว
กรณีกลับกัน บ้านจำเป็นต้องปลูกสร้างบนที่ดินที่มีประวัติเสีย ก็สามารถแก้ไขได้โดยการขุดหน้าที่ดินเก่าออก แล้วเอาดินใหม่ถมเข้าไปแทน ไม่ใช่เอาดินใหม่ถมทับเข้าไป อย่างนี้เชื้อดินเดิมจะยังคงอยู่ จะส่งผลเสียเช่นกัน
บางตำราระบุเอาไว้ด้วยว่า บริเวณที่จะสร้างบ้าน จะต้องเอาตาข่ายปูรอบที่ดินก่อนที่จะสร้างบ้านลงไป เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ใต้ดินไม่ให้มารบกวนคนในบ้าน ซึ่งเป็นความเชื่อของคนสมัยก่อน ตาข่ายที่นำมาปูจะต้องผ่านการทำพิธีมาก่อนจึงจะนำมาใช้ได้ เพราะเป็นการแก้เรื่องของจิตวิญญาณโดยตรง
เห็นไหมครับ เรื่องของการถมที่ดินก็ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ บางครั้งอาจส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงชนิดคาดไม่ถึงเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าทำได้แต่เริ่มแรกก็ไม่ควรละเลยนะครับ
นอกจากนี้ เรื่องของการถมที่ดินเพื่อปลูกสร้างบ้าน ยังมีเคล็ดลับเกี่ยวกับการนำดินมาถมอีกด้วย โดยในตำราจะบอกเอาไว้ว่า ดินที่นำมาถมนั้น จะต้องเป็นดินที่มีคุณภาพดี มาจากแหล่งที่ดี ห้ามนำพวกขยะ เศษหิน เศษปูน มาถม ดินส่วนใหญ่ที่ดีจะต้องไม่มีประวัติที่เสีย เช่น เป็นดินที่ขุดมาจากสถานที่ ที่เคยเกิดภัยพิบัติ ไฟไหม้ ตึกถล่ม สุสาน หรือสถานที่ที่มีคนตายหมู่ ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าอัปมงคลอย่างยิ่ง เพราะดินจะมีเชื้อแห่งความสูบเสียและจิตวิญญาณของคนตายติดมาด้วย
ดินที่มีลักษณะดี ส่วนใหญ่จะเป็นดินร่วนผสมดินเหนียว ซึ่งเป็นดินที่เหมาะกับ
การเพาะปลูก แหล่งดินส่วนใหญ่ที่นำมาถม จึงได้มาจากทุ่งนา ไร่สวน ที่มีสภาพดินที่ดีอยู่แล้ว
กรณีกลับกัน บ้านจำเป็นต้องปลูกสร้างบนที่ดินที่มีประวัติเสีย ก็สามารถแก้ไขได้โดยการขุดหน้าที่ดินเก่าออก แล้วเอาดินใหม่ถมเข้าไปแทน ไม่ใช่เอาดินใหม่ถมทับเข้าไป อย่างนี้เชื้อดินเดิมจะยังคงอยู่ จะส่งผลเสียเช่นกัน
บางตำราระบุเอาไว้ด้วยว่า บริเวณที่จะสร้างบ้าน จะต้องเอาตาข่ายปูรอบที่ดินก่อนที่จะสร้างบ้านลงไป เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ใต้ดินไม่ให้มารบกวนคนในบ้าน ซึ่งเป็นความเชื่อของคนสมัยก่อน ตาข่ายที่นำมาปูจะต้องผ่านการทำพิธีมาก่อนจึงจะนำมาใช้ได้ เพราะเป็นการแก้เรื่องของจิตวิญญาณโดยตรง
เห็นไหมครับ เรื่องของการถมที่ดินก็ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ บางครั้งอาจส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงชนิดคาดไม่ถึงเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าทำได้แต่เริ่มแรกก็ไม่ควรละเลยนะครับ
โดย : kampol40
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น